10 ดาวรุ่งพุ่งกระฉูด อนาคตไกล น่าจับตามองที่สุดปี 2019
นับเป็นเรื่องที่น่าจับตาในทุกๆ ปี สำหรับนักเตะหน้าใหม่ที่พร้อมจะสลัดความเป็นดาวรุ่งตัวน้อยในศูนย์ฝึกเยาวชนของแต่ละสโมสรขึ้นมาแจ้งเกิดบนทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักสำหรับนักฟุตบอลดาวรุ่งที่ต้องการโอกาสในการแจ้งเกิด แต่งอย่างไรก็ตามโลกของวงการฟุตบอลนั้นก็คือการแสดงทักษะและความสามารถในตัวของนักกีฬาทั้งหลายว่ามีความโดดเด่นอย่างไร และแน่นอนว่าผู้คนที่เฝ้าจับตามองนั่นก็คงหนีไม่พ้นเหล่าบรรดาแฟนบอลที่อยู่ข้างสนามและคอยส่งเสียในกำลังใจบรรดานักเตะดาวรุ่งที่เปรียบเสมือนฮีโร่หน้าใหม่ที่จะขึ้นมาประดับวงการลูกหนัง และนี่คือ 10 ดารุ่งพุ่งแรงที่สุดในปี 2019
- คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย (เชลซี)
คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย นักเตะแดนกลางของเชลซี ตัวแทนของแลมพาร์ด
นี่คือนักเตะสารพัดประโยชน์ในแนวรุก โดยเขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนกลางและยังมีความโดดเด่นตรงการช่วยสร้างโอกาสสำคัญๆ ให้กับทีมได้อยู่เสมอ แม้เจ้าตัวจะไม่ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยทักษะที่มากมาย แต่มีข้อทดแทนตรงพรสวรรค์และการฝึกซ้อมที่เข้มข้น การันตีความสำเร็จในระดับเยาวชนจากรางวัลอย่างมากมาย
และนอกจากนี้ เด็กปั้นจากศูนย์เยาวชนของเชลซีรายนี้ ยังเป็นที่สนใจของหลากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส, บาร์เซโลน่า, และเรอัล มาดริด ซึ่งหาได้ยากสำหรับนักเตะที่มีพรสวรรค์ทางด้าน “เซ้นส์ฟุตบอล” และยังมีจุดเด่นของการสร้างจุดเปลี่ยนจากเกมรับให้เป็นเกมรุกอย่างรวดเร็ว จนสื่อหลายสำนักยกย่องให้เขาเป็นตัวแทนของ แฟร้งก์ แลมพาร์ด
- วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด)
วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าดาวรุ้ง ความหวังใหม่ของ ราชันชุดขาว
กองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปี ได้ตัดสินใจย้ายจากสโมสรในบ้านเกิดอย่าง ฟลาเมงโก เพื่อบินลัดฟ้ามาตามความฝันที่จะค้าแข้งกับยอดทีมดังใน ลา ลีกา สเปน อย่าง เรอัล มาดริด โดย “ราชันชุดขาว” ทำการคว้าตัวนักเตะผู้นี้มาด้วยราคาค่าตัวราวๆ 45 ล้านยูโร
โดยเขาได้รับการยกย่องว่าคือดาวเด่นที่เตรียมจะฉายแสงเป็นอันดับถัดไปต่อจาก เนย์มาร์ ซุปตาร์ชาวบราซิล โดยเจ้าตัวมีทั้ง ทักษะ, ความคล้องตัว, และความไว ทำให้เขาสามารถไปกับบอลได้ดี จนเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เขายังมีสไตล์การเล่นที่ยังหาตัวจับได้อย่าง แต่อย่างไรก็ตามกองหน้าดาวรุ่งผู้นี้ก็ยังคงต้องรอเวลาและโอกาสจาก เรอัล มาดริด ต่อไป เพราะด้วยสตาร์ดังที่ล้นทีมทำให้เป็นเรื่องยากในการเบียดตำแหน่งกับนักเตะรุ่นพี่ขึ้นมาเป็นตัวจริงได้
- จาดอน ซานโช่ (โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์)
จาดอน ซานโช่ ดาวรุ้งชาวอังกฤษ ที่สร้างโด่งดังอยู่ต่างแดน
ดาวรุ่งวัย 18 ปี จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในสโมสรได้ แต่ด้วยความสามารถของดาวรุ่งผู้นี้ทำให้เขาได้รับโอกาสจากทีมดังเมืองเบียร์อย่าง “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ และเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังแม้แต่อย่างใด
โดยแมตซ์แจ้งเกิดของเจ้าตัวนั้นได้เกิดขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2018 ในเกมที่พบกับ ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งในแมตซ์นั้นเจ้าตัวได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเป็นนัดแรก และยังสามารถทำประตูมีชื่อติดอยู่บนสกอร์บอร์ด พร้อมทั้งแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมไปอีก 2 แอสซิสต์ ก่อนทีมเกมนัดนั้นจะจบลงด้วยสกอร์ 4-0 และเมื่อล่าสุด ในวันที่ 4 ตุลาคม 2018 แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้ติดชื่อของดาวรุ่งที่ไปสร้างชื่อในต่างแดนผู้นี้ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ทิโมธี เวอาห์ (ปารีส แซงต์ แซร์กแมง)
ทิโมธี เวอาห์ ลูกไม้หล่นใต้ต้นของ จอร์จ เวอาห์
แม้ร่างกายจะไม่แกร่งและกำยำเหมือน จอร์จ เวอาห์ ผู้เป็นพ่อสักเท่าไหร่ แต่สี่งที่ทดแทนมานั้นคือทักษะและพรสวรรค์ที่ได้รับมาจาก เวอาห์ ผู้เป็นพ่อมาแบบเต็มๆ แต่เนื่องจากซุปเปอร์สตาร์ในทีมที่มีหนาแน่นและมากมาย ทำให้ ทิโมธี เวอาห์ ยังคงเฝ้ารอเวลาพิสูจน์ตัวเองอย่างไม่ลดละ แต่ก็ถือว่าเขาสอบผ่านจากมาตรฐานและความสามารถของนักเตะในทีมดีกรีแชมป์ลีกเอิงอย่าง ปารีส แซงต์ แซร์กแมง นอกจากยังสามารถทำประตูได้อีกด้วย
นอกจากนี้ผลงานในทีมชาติของเจ้าตัวก็ยังถือว่าร้อนแรงเป็นอย่างมาก ด้วยการกดแฮตทริกถล่มประตูใส่ ทีมชาติปารากวัย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ชุด ยู 17 พร้อมทั้งยังสร้างชื่อในเส้นทางของโลกฟุตบอลได้เป็นอย่างมาก
- มาไธจ์ส เดอ ลิกต์ (อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม)
มาไธจ์ส เดอ ลิกต์ กัปตันวัย 19 ปี ผู้มีความดุดันและแข็งแกร่งอยู่ในตัว
ปราการหลังดาวรุ่งเจ้าของความสูง 190 เซนติเมตร ก้ามขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แต่ไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามมากเท่าที่ควร เพราะด้วยประสบการณ์และอายุที่ยังไม่มากเท่าที่ควร จึงทำให้ผู้จัดการทีมยังไม่สามารถมั่นใจในความดุดันกล้าเล่นของเจ้าตัวเท่าไหร่นัก
แต่อย่างไรก็ตาม การย้ายออกจากทีมของ ดาวินซอน ซานเชซ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ทำให้ เดอ ลิกต์ ในวัย 18 ปี เป็นผู้ที่ได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองมากขึ้น และก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งนอกจากทีเด็ดจากการเล่นลูกกลางอากาศ เจ้าตัวยังสามารถเปิดเกมจากแดนหลังได้อย่างยอดเยี่ยมและแม่นยำ และยังเป็นที่ให้ความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ไปทั่วยุโรปอีกด้วย
- อุสมาน เดมเบเล่ (บาร์เซโลน่า)
อุสมาน เดมเบเล่ แนวรุก E-Sport ผู้มากไปด้วยพรสวรรค์
เดมเบเล่ ในวัย 19 ปี ที่สโมสร โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ ติดตามดูฟอร์มการเล่นอยู่ช่วงเวลาเวลานึงก่อนที่จะคว้าตัวมาร่วมทีมได้สำเร็จ เขาถือเป็นนักเตะพรสวรรค์ที่มีทักษะการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ และลีลาการกระชากบอลที่ว่องไว พร้อมทั้งเทคนิคอันแพรวพราวที่มีอยู่รอบด้าน จึงทำให้ในปี 2017 บาร์ซ่า ที่เพิ่งเสียทาง เนย์มาร์ ไปให้กับทีมเงินถังอย่าง ปารีส แซงต์ แซร์กแมง ต้องทำการเซ็นสัญญาคว้าตัวดาวเตะมากพรสวรรค์ผู้นี้มาร่วมทีมอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งความหวังจากแฟนบอลชาวคาตาลันว่าเขาคือตัวตายตัวแทนของนักเตะผู้จากไปอย่าง เนย์มาร์ ซึ่งในเวลาต่อมา อุสมาน เดมเบเล่ ได้แสดงผลงานได้อย่างน่าประทัยใจและเป็นที่รักของแฟนบอลเป็นอย่างมาก
- มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าหัวใจผีแดง
เด็กระเบิดที่เกิดในท้องถิ่นของเมืองแมนเชสเตอร์ โดยเขาคือผลผลิตจากศูนย์ฝึกเยาวชนของทัพ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยได้ประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนฯยูไนเต็ด ในเกม ยูโรป้าลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย ด้วยการเอาชนะมิดทิลแลนด์ไปด้วยสกอร์ 5-1 โดยเจ้าตัวได้ลงสนามเป็นตัวจริงและสามารถทำไปได้ถึง 2 ประตู จึงทำให้กลายเป็นนักเตะของทัพผีแดงที่มีอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้บนเวทียุโรปด้วยวัยเพียง 18 ปี กับ 117 วัน
ในฤดูกาลล่าสุดเขาได้ถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเต็มตัว และได้ทำการสืบทอดตำนานหมายเลข 10 ต่อจาก เวย์น รูนี่ย์ ที่ได้ย้ายออกจากสโมสรไป ด้วยความคล่องตัว ความว่องไว และความแม่นยำในการทำประตูจึงทำให้เขาเป็นที่จับตามองจากสื่อหลายสำนักพร้อมให้ความคาดหวังว่า แรชฟอร์ด จะเป็นผู้ปลุกวิญญาณผีให้กลับมายิ่งใหญ่ได้ในที่สุด
- คริสเตียน พูลิซิช (โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์)
คริสเตียน พูลิซิช กัปตันอเมริกา ตัวรุกที่น่าจักตามอง
นี่คือนักเตะแข้งทองแห่งวงการฟุตบอลอเมริกาเลยก็ว่าได้ เพราะอายุที่ยังน้อยของเจ้าตัวแต่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของสโมสรในนามทีมชาติไปได้เรียบร้อย และด้วยประสบการณ์ในการลงสนามที่คร่ำหวอด จึงทำให้เจ้าตัวได้รับความไว้วางใจและได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกา จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจสำหรับดาวเตะผู้นี้ที่จะได้รับการจับตามองจากสื่อและสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างมากมาย
อย่างไรก็ตาม ดาวเตะวัย 20 ปี ผู้นี้เพิ่งตัดสินใจเซ็นสัญญาย้ายซบทีมดังแห่งเมืองลอนดอนอย่าง เชลซี ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยค่าตัวราวๆ 58 ล้านปอนด์ และพร้อมที่จะย้ายเข้าสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจบฤดูกาลนี้ในทันที
- แฟรงกี้ เดอ ยอง (อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม)
แฟรงกี้ เดอ ยอง มิดฟิลด์ที่มีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกับกาก้า
เขาคือผู้เล่นที่ได้รับคำยกย่องจากสื่อกีฬาหลายสำนัก ว่ามีทักษะและสไตล์การเล่นที่โดดเด่นเปรียบเสมือนส่วนผสมระหว่าง “เซร์คิโอ บุสเก็ตส์” และ “กาก้า” ที่ได้ออกมาเป็นมิดฟิลด์วัย 20 ปี ผู้นี้ โดยถือเป็นมิดฟิลด์สารพัดประโยชน์ที่สามารถเล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ด้วยทักษะและสไตล์การเล่นที่เจ้าตัวมีจึงสามารถสร้างสรรค์เกมออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และยังสามารถพา อาแจ็กซ์ ล้มยักษ์อย่าง เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส จนทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
ด้วยความเก่งกาจเกินวัยจึงทำให้เจ้าตัวเป็นที่หมายปองจากสโมสรมากมายทั่วทวีปยุโรป แต่ในช่วงตลาดหน้าหนาว เดอ ยอง ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญาย้ายเข้าสู่ทีมดังแห่งแคว้นคาตาลันของ ลา ลีกา สเปน อย่าง บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวประมาณ 75 ล้านยูโร พร้อมรับโบนัสในอนาคตอีก 11 ล้านยูโร ตามรายงานจากสื่อดังเมืองกระทิงดุ
- คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ปารีส แซงต์ แซร์กแมง)
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยอดนักเตะดาวรุ่งที่โลกกำลังจับตามอง
การันตีด้วยรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม ปี 2018 ซึ่งหากจะเปรียบเทียบนักเตะที่อายุไม่เกิน 21 ปีแล้ว คงไม่มีใครที่จะเก่งกาจและฟอร์มเดือดเท่ากับ เอ็มบัปเป้ อย่างแน่นอน จากการพาทีมชาติฝรั่งเศสเข้าไปคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ และทำไปได้ถึง 4 ประตู จนเป็นที่กล่าวขานของสื่อหลายสำนักว่าเขาคือผู้เล่นที่จะขึ้นมาประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่ต่อจากยุคของ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อย่างแน่นอน
ด้วยทักษะและความเร็วที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างกระฉับกระเฉงและมั่นคงทุกฝีก้าว และยังใช้จังหวะในการทำประตูโดยใช้ทุกโอกาสได้อย่างคุ้มค่า เขาจึงถือเป็นผู้เล่นที่สามารถปรับตัวให้เข้าได้กับทุกจังหวะของฟุตบอลได้อย่างง่ายดายจนได้รับยกย่องจากแฟนบอลมากมายว่านี่คือ อัจฉริยะแห่งวงการลูกหนังฝรั่งเศส อีกด้วย